การปลูกมะนาวในบ่อซีเมนต์
ถึงแม้ว่าความนิยมในการปลูกมะนาวของเกษตรกรไทยจะเน้นไปในเรื่องของขนาดผลใหญ่
เปลือกผลที่บางและมีสีเขียวสดใส มีน้ำมากและมีกลิ่นหอม รสชาติเปรี้ยวจัด สายพันธุ์มะนาวที่เกษตรกรไทยนิยมปลูกในเชิงการค้าในปัจจุบัน
ได้แก่ พันธุ์แป้นรำไพ แป้นทวาย อีมัน ฯลฯ โดยเฉพาะพันธุ์แป้นรำไพ
น่าจะเป็นสายพันธุ์เกษตรกรขยายพื้นที่ปลูกมากที่สุด
เนื่องจากมีลักษณะเด่นตรงที่ออกดอกและติดผลง่าย
ในขณะที่มะนาวพันธุ์ตาฮิติซึ่งจัดเป็นมะนาวที่ไม่มีเมล็ดและทนทานต่อโรคแคงเกอร์
จากประสบการณ์ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์มานาน
จะถือได้ว่าเป็นเกษตรกรต้นตำรับในการปลูกมะนาวในรูปแบบนี้ก็ว่าได้
และในการเริ่มต้นของการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ของได้นำสายพันธุ์มะนาวหลากหลายมาทดลองปลูก
ในที่สุดก็เน้นปลูก พันธุ์ตาฮิติ เพื่อส่งขายตลาดต่างประเทศเหตุผลหลักๆ
ที่ตัดสินใจคัดเลือกปลูกมะนาวพันธุ์ตาฮิติ
เพราะเป็นสายพันธุ์ที่ค่อนข้างทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศได้ดี
เป็นสายพันธุ์ที่มีความทนทานต่อโรคแคงเกอร์และจัดเป็นมะนาวที่มีผลขนาดใหญ่
ที่สำคัญคุณพิชัยจะขายมะนาวตาฮิตินอกฤดูได้เฉลี่ยผลละ 1.20-1.80 บาท
การเริ่มต้นจัดผังปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
รายละเอียดของการเริ่มต้นการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จะต้องวัดพื้นที่
กว้างxยาว ก่อน เพื่อจะหาพื้นที่ หลังจากนั้น เว้นทางเดินประมาณ 2 เมตร ระยะปลูกระหว่างต้น 1.20 เมตร ระยะระหว่างแถว 1.50 เมตร
ปลูกแบบแถวคู่แล้วเว้นเป็นทางเดิน 2 เมตร สภาพพื้นที่ปลูกจะต้องปรับให้เรียบเหมือนกับลานตากข้าว
วัดระยะการวางวงบ่อ
การวางวงบ่อซีเมนต์พยายามวางให้เป็นเลขคู่เพื่อง่ายต่อการวางระบบน้ำและคำนวณแรงดันน้ำกรณีระบบการให้น้ำจะใช้แรงดันจากแท็งก์ส่งน้ำใช้หัวมินิสปริงเกลอร์
(ไม่ได้ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า) ท่อจะอยู่ตรงกึ่งกลางเพื่อกระจายน้ำได้สม่ำเสมอ
คุณพิชัยได้ทดลองระบบการให้น้ำในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์จนได้สูตรสำเร็จ 1 ประตูน้ำ จะต้องคลุมต้นมะนาวได้ 100 ต้น มะนาว 400 วงบ่อ จะมี 4 ประตูน้ำ อย่างนี้เป็นต้น
ส่วนของแท็งก์จะแบ่งออกเป็น
2 ชุด ชุดแรกจะก่อให้สูง ประมาณ 5 วงบ่อ หรือมีความจุน้ำได้
1,200 ลิตร
จะใช้แท็งก์นี้เพื่อผสมปุ๋ยน้ำชีวภาพแล้วเปิดน้ำดีเข้าไปผสมปล่อยไปให้ต้นมะนาวในวงบ่อได้โดยตรง
ส่วนแท็งก์อีกชุดหนึ่งจะก่อให้สูงประมาณ 9 วงบ่อจำนวน 2 แท็งก์ เพื่อกักเก็บน้ำสะอาดแล้วช่วยในเรื่องของแรงดัน
การเตรียมดินปลูกมะนาวและขนาดของวงบ่อซีเมนต์
ขนาดของวงบ่อซีเมนต์ที่แนะนำให้เกษตรกรใช้
จะใช้ขนาดวงเส้นผ่าศูนย์กลาง 80 เซนติเมตร
แต่เดิมฝาวงบ่อใช้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 80
เซนติเมตรเท่ากับขนาดของวงบ่อ เมื่อปลูกไปนาน 2-3 ปี พบว่า
รากของต้นมะนาวจะโผล่ออกมานอกวงและชอนลงไปในดิน ทำให้ควบคุมในเรื่องของการบังคับให้ออกนอกฤดูได้ยากมากขึ้น
ปัจจุบัน จึงได้แนะนำเกษตรกรและแก้ไขให้ซื้อฝาวงบ่อที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางยาวกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางของวงบ่อ
ใช้ฝาวงบ่อขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 90 เซนติเมตร
กว้างกว่า 10 เซนติเมตร
ดินผสมที่จะใช้ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
จะใช้วัสดุปลูกหลัก 3 ชนิด คือ หน้าดิน 3 ส่วน ขี้วัวเก่า 1 ส่วน และเปลือกถั่วเขียว 2 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน
การใช้เปลือกถั่วเขียวจะช่วยให้สภาพดินมีการระบายน้ำที่ดี
ถ้าใช้แค่หน้าดินผสมกับขี้วัวจะทำให้ดินปลูกแน่น เวลาให้น้ำไป 3-4 วัน น้ำยังไม่ถึงข้างล่างของวงบ่อ
คุณพิชัยยังได้ยกตัวอย่างปริมาณของดินที่จะใช้ในการปลูกมะนาว จำนวน 100 วงบ่อ จะต้องใช้หน้าดินประมาณ 1 คันรถสิบล้อ
เทคนิคในการผสมวัสดุปลูกจะต้องปูพื้นด้วยหน้าดินเป็นขั้นแรก หลังจากนั้น
ใส่ขี้วัวเก่าเป็นชั้นที่ 2 แล้วตามด้วยเปลือกถั่วเขียวเป็นชั้นบนสุด
หลังจากนั้นใช้เครื่องตีพรวนติดรถไถจะเร็วกว่าใช้แรงงานคน
การใส่วัสดุปลูกลงบ่อซีเมนต์มีเทคนิค
ที่ผ่านมาเกษตรกรที่ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ส่วนใหญ่จะใส่วัสดุปลูกในวงบ่อซีเมนต์เพียงเสมอวงบ่อเท่านั้น
เมื่อรดน้ำไปได้เพียงแค่สัปดาห์เดียว วัสดุปลูกจะยุบตัวลงมาประมาณ 1 คืบมือ ถ้าเกษตรกรเติมวัสดุปลูกลงไปจะไปกลบลำต้นมะนาว ปัญหาเรื่องโรคโคนเน่าจะตามมา ดังนั้น
ในการใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อซีเมนต์จะต้องใส่ให้พูนเป็นภูเขาเลย
และที่จะต้องเน้นเป็นพิเศษขณะที่ใส่วัสดุปลูกลงในวงบ่อนั้นคือ
จะต้องขึ้นเหยียบวัสดุปลูกขอบๆ วงบ่อ บริเวณตรงกลางไม่ต้องเหยียบ
การใส่วัสดุปลูกให้เป็นภูเขาจะช่วยในเรื่องดินยุบลงมาเสมอวงบ่อได้นานถึง 1 ปี
วิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ที่ถูกต้อง
หลังจากที่ใส่วัสดุปลูกลงในบ่อซีเมนต์เรียบร้อยแล้ว
ให้เกษตรกรขุดเปิดปากหลุมให้มีขนาดเท่ากับขนาดของถุงที่ใช้ชำต้นมะนาว
(โดยปกติถ้าใช้กิ่งตอนมะนาว ควรจะชำต้นมะนาวไว้นานประมาณ 1 เดือน เท่านั้น ไม่แนะนำให้ซื้อต้นมะนาวที่ชำมานานแล้วหลายเดือน
หรือชำค้างปี เนื่องจากจะพบปัญหาเรื่องรากขด ทำให้เจริญเติบโตช้าหรือต้นแคระแกร็น)
รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น สูตร 16-16-16
อัตราประมาณ 1 กำมือ
ถอดถุงดำปลูกต้นมะนาวให้พอดีกับระดับดินเดิม กลบดินแล้วใช้เท้าเหยียบรอบๆ ต้น
เพื่อไม่ให้โยกคลอน ปักไม้เป็นหลักกันลมโยกและแนะนำให้ใช้ตอกมัดต้นมะนาวไว้กับหลัก
ตอกจะผุเปื่อยหลังจากปลูกไปนานประมาณ 2 เดือน
ต้นมะนาวตั้งตัวได้แล้ว
แต่ที่หลายคนได้ใช้ปอฟางหรือพลาสติคทาบกิ่งมัดกับหลักจะอยู่ได้นานก็จริง
แต่ปัญหาที่จะตามมาจะทำให้ลำต้นมะนาวคอด มีผลต่อการเจริญเติบโตของต้น
หลังจากปลูกเสร็จให้เดินท่อ PE เจาะหัวมินิสปริงเกลอร์และวางท่อ
PE พาดไปกับวงบ่อเลยเพื่อสะดวกต่อการทำงาน
ปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ได้ตลอดทั้งปี
คุณพิชัย
บอกว่า ในการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี ปลูกไปแล้วนับไปอีก 8 เดือน เกษตรกรสามารถบังคับให้ต้นออกดอกได้
ถ้าเกษตรกรจะบังคับให้มะนาวออกฤดูแล้งในรุ่นแรกแนะนำให้ปลูกต้นมะนาวในช่วงเดือนมกราคม
ในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม
ในปีเดียวกันบังคับต้นให้ออกดอกได้โดยใช้หลักการเหมือนกับที่ปลูกลงดิน
ผลผลิตมะนาวฤดูแล้งจะไปแก่และเก็บผลผลิตขายได้ราคาแพงในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนของปีถัดไป
เท่ากับว่าการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ใช้เวลาปลูกเพียงปีเศษเท่านั้น
เกษตรกรสามารถเก็บมะนาวฤดูแล้งขายได้
วิธีการรดน้ำต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
ในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ตามคำแนะนำผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการจัดการผลิตพืชที่เหมาะสมในเขตภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งเป็นที่คิดค้นวิธีการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์เป็นที่แรก
ขณะที่เป็นนักวิชาการเกษตรอยู่ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนพิจิตร
คุณนรินทร์ได้แนะนำให้ใช้พลาสติคคลุมปากบ่อซีเมนต์เพื่อป้องกันน้ำหรือฝนที่ตกลงมาในช่วงแรกๆ
คุณพิชัยก็ใช้วิธีการนี้เช่นกัน แต่พบปัญหาว่าเมื่อเกษตรกรนำพลาสติคไปคลุมกลับรักษาความชื้นให้กับต้นมะนาวใช้เวลานานวันกว่าดินจะแห้ง
ปัจจุบัน
คุณพิชัยจึงเลือกใช้หลักการ "ฝนทิ้งช่วง"
ในแต่ละปีช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน ของทุกปี จะมีช่วงเวลาที่ฝนทิ้งช่วง
จากประสบการณ์ของคุณพิชัยในการผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์ ถ้าฝนไม่ตกติดต่อกัน
3-4 วัน ดินในวงบ่อจะเริ่มแห้ง ใบมะนาวจะเริ่มเหี่ยว
หลังจากนั้นฉีดกระตุ้นให้ต้นมะนาวออกดอกและติดผลได้
ปัจจุบันจึงเลิกวิธีการใช้พลาสติคคลุมวงบ่อเพื่ออดน้ำ ใช้เพียงหลักการ
"ฝนทิ้งช่วง" และมีการบำรุงต้นและสะสมอาหารให้สมบูรณ์
ผลิตมะนาวฤดูแล้งในวงบ่อซีเมนต์
2 รุ่น ต่อปี
ในช่วงเริ่มแรกของการบังคับมะนาวฤดูแล้งของคุณพิชัยจะทำให้ต้นมะนาวออกดอกเพียงรุ่นเดียวคือ
ช่วงเดือนตุลาคมและไปเก็บผลผลิตในช่วงเดือนเมษายนเท่านั้น
ทำให้คุณพิชัยจะต้องคอยปลิดดอกมะนาวทิ้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเรื่อยมาจนถึงเดือนสิงหาคม-กันยายน
แต่ช่วงเวลา 3-4
ปีที่ผ่านมาสภาวะตลาดมะนาวผลผลิตจะเริ่มมีราคาดีตั้งแต่เดือนมกราคมเรื่อยไปจนถึงเดือนเมษายน
คุณพิชัยจึงปล่อยให้มะนาวให้ผลผลิต 2 รุ่น
คือมีผลผลิตขายในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์รุ่นหนึ่ง
(บังคับให้ต้นออกดอกในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม)
และมีผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนอีกรุ่นหนึ่ง
(บังคับให้ออกดอกในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม)
พอเข้าสู่เดือนพฤษภาคมของทุกปีราคามะนาวจะถูกลง
คุณพิชัยจะตัดแต่งกิ่งมะนาวในช่วงเวลานี้
พร้อมทั้งปลิดผลมะนาวที่ติดอยู่บนต้นทิ้งให้หมดตัดแต่งกิ่งมะนาวในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก
ทุกๆ 3 ปีตัดแต่งกิ่งมะนาวตาฮิติในวงบ่อซีเมนต์อย่างหนัก
ทุกๆ 3 ปี โดยจะเริ่มตัดแต่งกิ่งและปลิดผลทิ้งทั้งหมดภายในเดือนพฤษภาคม
ในช่วงปีที่ 1-2 จะตัดแต่งบ้างแต่ไม่มากนัก
จะมาตัดแต่งหนักเมื่อต้นมีอายุประมาณ 3 ปี
ซึ่งในช่วงนั้นมักจะพบว่าต้นมะนาวเริ่มโทรม มีกิ่งแห้งเป็นจำนวนมาก
การตัดแต่งกิ่งมีผลทำให้ต้นมะนาวแตกกิ่งออกมาใหม่และได้ผลผลิตมะนาวที่มีคุณภาพ
หลังจากตัดแต่งกิ่งเสร็จในเดือนพฤษภาคม ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม
เป็นช่วงบำรุงต้นและสะสมอาหารเพื่อจะกระตุ้นการออกดอกรุ่นแรกในเดือนของการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์
เมื่อใบมะนาวเหี่ยวและเริ่มร่วงหรือเหลือใบยอดเพียง
1 คืบ คุณพิชัยจะเปิดตาดอกโดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตรที่มีตัวกลางสูง เช่น สูตร 15-30-15 หรือ 12-24-12 อัตรา 1 กำมือ
ใส่ให้กับต้นมะนาวในวงบ่อซีเมนต์ รดน้ำจนเห็นว่าปุ๋ยละลายจนหมด
(ช่วงการให้ปุ๋ยนี้คุณพิชัยไม่แนะนำให้เปิดน้ำด้วยหัวสปริงเกลอร์
ควรจะให้น้ำด้วยสายยางจะดีกว่า) และยังได้แนะนำก่อนว่า
ก่อนที่จะให้ปุ๋ยควรเปิดน้ำให้กับต้นมะนาวจนดินชุ่มเสียก่อน
คุณพิชัยจะรดน้ำด้วยสายยาง 2-3 ครั้งทุกๆ 3-5 วัน
สำหรับการฉีดพ่นฮอร์โมนหรือธาตุอาหารทางใบควรฉีดพ่นอย่างเต็มที่
ฉีดพ่นด้วยฮอร์โมน โปรดั๊กทีฟ อัตรา 20 ซีซี
ผสมกับสารเทรนเนอร์ อัตรา 10 ซีซี และปุ๋ยทางใบ สูตร 0-52-34 อัตรา 100 กรัม ต่อน้ำ 1 ปี๊บ
(20 ลิตร) ฉีดพ่นต่อเนื่องทุก 5-7 วัน
หลังจากนั้นต้นมะนาวจะเริ่มออกดอกและติดผลไปแก่ในช่วงฤดูแล้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น